ส่องโรดแมพ ทีมชาติไทย ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ U23 โอลิมปิก 2024
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอบคุณโอกาสที่ได้อธิบายแผนงานต่อ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เรื่องการเตรียม ทีมชาติไทย สำหรับรายการแข่งขันฟุตบอลในปีหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการของบประมาณเตรียมทีม เช่น ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และ เอเอฟซี U23 คัดโอลิมปิก
ตามที่ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมกันประชุมพิจารณาแผนงานและงบประมาณการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ร่วมกับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ และการกีฬาแห่งประเทศไทย
พาทิศ ศุภะพงษ์ |
พาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของความเป็นห่วงกังวล และคาดหวังที่อยากเห็นความสำเร็จให้คนไทยมีความสุขกับการเชียร์กีฬา ซึ่งสมาคมฯ ได้เข้ารับฟังและเข้าใจมุมมองจากทั้งรองผู้ว่าฯ และผู้บริหารของโอลิมปิคไทยเป็นอย่างดี”
“ขณะเดียวกันถือเป็นเรื่องดีที่สมาคมฯ ได้รับโอกาสในการอธิบายถึงแผนงานที่เตรียมไว้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ผมถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ ที่ได้แลกเปลี่ยนกัน”
สมาคมฯ แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะใช้นักกีฬาในรุ่นอายุ ที่สามารถลงแข่งขันได้ในทุกรายการในปี 2023 ตั้งแต่ชิงแชมป์อาเซียน U23 ซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ และเอเอฟซี U23 ที่จะใช้เป็นรายการในการคัดโอลิมปิค ปารีส 2024 ต่อไป แม้อายุอาจจะยังไม่เต็มรุ่นในช่วงที่เข้าสู่รายการซีเกมส์ที่กัมพูชาก็ตาม แต่จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการเล่น และระบบทีม มากกว่าการใช้เต็มรุ่นอายุและต้องเปลี่ยนนักกีฬาเมื่อจบรายการนั้นๆ ไป และพวกเขาจะอยู่ในช่วงอายุเต็มรุ่นพอดีสำหรับรายการเอเอฟซี U23 คัดโอลิมปิก
โดยเฉพาะนโยบายไม่ใช้ผู้เล่นโควต้าอายุเกิน ที่แม้จะสามารถใช้ได้ในรายการซีเกมส์ กลับกันไม่สามารถใช้โควต้าเหล่านี้ได้ในรายการเอเอฟซี U23 คัดโอลิมปิค ในช่วงปลายปี และถ้าผ่านไปถึงเอเอฟซี U23 รอบสุดท้ายเพื่อคัดโอลิมปิค ตรงนี้ก็ต้องชี้แจงว่าควรให้ผู้เล่นได้ลงอย่างต่อเนื่องในตำแหน่งสำคัญๆ ทุกรายการ
การที่นักกีฬาได้เล่นด้วยกันได้ในหลายๆ ทัวร์นาเมนต์นั้น ก็จะเรียนรู้ แก้ไข พัฒนาไปด้วยกัน และเมื่อจบการแข่งขันในปีหน้าเราก็จะได้นักกีฬาชุดที่ขึ้นไปเตรียมรองรับการผลัดใบของชุดใหญ่ได้ในทุกตำแหน่ง วงรอบแบบนี้จะช่วยสร้างความต่อเนื่องให้กับทีมชาติเมื่ออายุเกิน 23 และก้าวสู่ชุดใหญ่ ซึ่งนี่คือวิธีการที่สากลได้ปฏิบัติกัน เพื่อให้มีนักฟุตบอลที่เล่นด้วยกันมาตลอด เติบโตขึ้นไปสนับสนุนรองรับกันรุ่นสู่รุ่นต่อไปในทุกตำแหน่ง
กรณีที่มีการพูดถึงการปรับโปรแกรมลีกเพื่อให้มีเวลาฝึกซ้อมให้ซีเกมส์มากขึ้นนั้น ขอแจ้งว่าเป็นความคิดเห็นที่กล่าวขึ้นจากผู้ที่เข้าร่วมประชุม แต่เมื่อสมาคมฯ ได้ชี้แจงว่าไม่ควรไปกระทบการแข่งขันของสโมสรอาชีพ ยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สโมสรต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพิ่มมาจากเดิมวางไว้ 9 เดือน เป็น 10 หรือ 11 เดือน โดยไม่ได้มีอะไรที่จะการันตีว่าจะได้นักฟุตบอลจากสโมสร จากที่เราทราบดีว่าระเบียบและโปรแกรมการแข่งขันซีเกมส์นั้น ใช้นักกีฬาตลอดทัวร์นาเมนต์เพียง 20 คน และไม่ได้เว้นวันพักฟื้นเหมือนกับกีฬาอาชีพ มีโอกาสบาดเจ็บ ก็เป็นเรื่องที่ต้องนำมาแลกเปลี่ยนให้ทราบในที่ประชุมได้ทราบ
ในขณะนี้มีการเก็บข้อมูล และพร้อมที่จะทำการฝึกซ้อมในช่วงปลายปี ซึ่งจะดีกว่าหากว่าเข้าหารือ แจ้งสโมสรเพื่อขอความร่วมมือในการสนับสนุนนักกีฬาแต่ละคนที่ต้องการ เข้าซ้อมในช่วงที่ลีกหยุดพัก และเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องในต่างประเทศหากได้มีการเทียบเชิญมา ก่อนมหกรรมกีฬาซีเกมส์ต่อไป ซึ่งที่ประชุมก็เห็นด้วยและยินดีให้การสนับสนุน
ส่วนเรื่องงบประมาณ ทาง กกท. ขอให้ปรับเปลี่ยนเอกสารให้เข้ากับหมวดที่เกี่ยวข้องและอัตราค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามระเบียบที่ กกท. สามารถให้เบิกจ่ายได้ ซึ่งในตอนแรกสมาคมฯ นั้นต้องการ นำเสนอค่าใช้จ่ายจริงที่สามารถอ้างอิงได้จากปีก่อน ทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ สนามซ้อม เบี้ยเลี้ยง การเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่อง (ถ้ามี) เพื่อให้ กกท. เห็นว่าค่าใช้จ่ายก็ยังมีมากพอสมควรที่ยังไม่ครอบคลุมอยู่ในระเบียบปัจจุบัน ก็ได้รับการแนะนำเป็นอย่างดี ซึ่งได้ปรับแก้และส่งกลับไปให้ กกท.พิจารณาแล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น